การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ด้านต่าง ๆ คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็คทรอนิคที่ทันสมัยที่มนุษย์นำมาช่วยในการทำงานด้านต่างๆ และจากจุดเริ่มต้นของระบบคอมพิวเตอร์นั้นดังที่ทราบคือ คอมพิวเตอร์เริ่มจากหน่วยงานทางด้านการทหารแล้วขยายไปสู่หน่วยงานอื่นๆ เช่น หน่วยงานทางราชการ หน่วยงานด้านการศึกษา วงการธุรกิจ อุตสาหกรรม และอื่นๆ ซึ่งจะได้กล่าวโดยละเอียดต่อไป
การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการทหารและตำรวจ
ในสหรัฐอเมริกา การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการทหารได้ก้าวหน้าไปมากกว่าประเทศอื่นใดในโลก แต่ผลงานด้านนี้มักจะเป็นผลงานชนิดลับสุดยอด ลับที่สุดเปิดเผยไม่ได้ เท่าที่พอจะทราบกัน ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์ในวงจรสื่อสารทหาร ใช้ในการควบคุมประสานงานด้านการทหาร ใช้แปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ ใช้ในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ใช้ในการทำสงครามจิตวิทยาใช้ในการวิจัยเตรียมทำสงครามเชื้อโรค ใช้ในการสร้างขีปนาวุธ และใช้ในการส่งดาวเทียมจารกรรม ถ่ายภาพพื้นที่ในเขตของฝ่ายตรงข้ามส่งให้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ว่ามีฐานทัพอะไรอยู่ที่ใด มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารอย่างไร มีการเคลื่อนย้ายอาวุธร้ายแรงอย่างไร
ดาวเทียมจารกรรม Discoverer XIV
ทางด้านกองบัญชาการทหารสูงสุด มีศูนย์กรรมวิธีข้อมูล ใช้ในการทำทะเบียนกำลังพล ใช้ในการส่งกำลังบำรุง และใช้ในการทำแบบจำลองสงคราม (war games) ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เราทราบข้อมูลล่วงหน้าได้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น เราจะต่อสู้ป้องกันได้อย่างไรหรือไม่ จะต้องใช้กำลังคน ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์มากน้อยเท่าใด ทางด้านการตำรวจของไทย มีศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์ขนาดกลางใช้ทำทะเบียนรถยนต์ทำทะเบียนใบขับขี่ ทำทะเบียนปืน ทำทะเบียนประวัติอาชญากรรมโดยจะสอบถามได้ว่าคนลักษณะอย่างนี้ หรือชื่อนั้นชื่อนี้มีประวัติหรือไม่ หรือจะส่งลายพิมพ์นิ้วมือให้คอมพิวเตอร์ค้นหาประวัติให้
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านวิทยาศาสตร์
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการวิจัยในทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของสสารเรียกว่า อนุภาค และศึกษาค้นคว้าว่าอนุภาคที่เล็กที่สุดนี้สามารถรวมตัวกัน เป็นสสารชนิดต่าง ๆ กันได้อย่างไร สมมติว่าถ้าใช้คนหนึ่งคนนั่งวัดและคำนวณวันละ 8 ชั่วโมง จะต้องใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10,000 ปี แต่ถ้าใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจะสามารถทำได้เร็วขึ้นมาก
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านกฎหมายและการปกครอง
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแก้ปัญหาด้านกฎหมายที่น่าจะมีประโยชน์มากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การใช้ในงานระบบข้อมูลทางกฎหมาย ในงานนี้เราต้องนำตัวบทกฎหมายทุกฉบับ รัฐธรรมนูญทุกฉบับ กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง กฎ ก.พ. กฎ ก.ม. กฎ ก.ต. ประกาศต่าง ๆ ฯลฯ สรุปคดีทุกคดีว่าใครฟ้องใคร เรื่องอะไร ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ตัดสินว่าอย่างไร เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะช่วยงานได้หลายอย่าง เช่น
ต้องการทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนเหมือนหรือแตกต่างกับฉบับไหนมากน้อยเท่าใด ก็ให้คอมพิวเตอร์ค้นหา และวิเคราะห์เปรียบเทียบพิมพ์ออกมาได้
ต้องการทราบว่าคดีแบบไหนเคยมีฟ้องร้องแล้วศาลตัดสินอย่างไร ก็ให้คอมพิวเตอร์ช่วยค้นหาให้
การใช้คอมพิวเตอร์ในโรงงานอุตสาหกรรม
ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น นอกจากจะใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีต่าง ๆ เช่น บัญชีเงินเดือน บัญชีลูกหนี้และบัญชีเจ้าหนี้แล้ว ก็อาจจะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยงานของโรงงานโดยตรง เช่น การจัดส่งสินค้าตามใบสั่ง การควบคุมวัสดุคงคลัง การจัดการผลิต และการคิดราคาต้นทุนสินค้า เป็นต้น
ในการจัดสินค้าส่งตามใบสั่ง (order filling) นั้น วัตถุประสงค์ เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยรวดเร็ว สมมติว่าพนักงานเจาะบัตรเจาะใบสั่งสินค้าของบ่ายวันที่ผ่านมาและของเช้าวันนั้นเสร็จภายใน 12.00 นาฬิกา ระหว่างเวลาที่พนักงานหยุดพักรับประทานอาหารกลางวัน คอมพิวเตอร์ก็จะพิมพ์ใบหยิบสินค้า (picking label) ให้ เมื่อพนักงานคลังสินค้ากลับเข้าทำงานเวลา 13.00 น. ก็เริ่มจัดสินค้าลงหีบห่อได้ทันทีภายใน 17.00 นาฬิกาของวันนั้นส่วนตอนเช้า พนักงานคลังสินค้าก็จะได้มีเวลาตรวจสินค้าคงคลังและจัดสินค้าที่มาใหม่
นอกจากพิมพ์ใบหยิบสินค้าแล้ว คอมพิวเตอร์จะพิมพ์ใบจัดสินค้าเข้าหีบห่อ (packing slips) จัดปรับปรุงแก้ไขแฟ้มข้อมูลวัสดุคงคลัง และจัดรายการสำหรับทำใบส่งของ
ถ้าสินค้าไม่พอ คอมพิวเตอร์ก็จะทราบ เพราะมีแฟ้มข้อมูลวัสดุคงคลังอยู่ คอมพิวเตอร์จะจัดส่งสินค้าที่ขาดให้ เพื่อจัดส่งในวันต่อ ๆ ไป นอกจากจะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจัดสั่งสินค้าแล้ว ก็็อาจใช้คอมพิวเตอร์ช่วยงานสินค้าคงคลัง ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนทั้งทางด้านความต้องการเงินสดและด้านกำไร หลักสำคัญก็คือ จัดส่งสินค้าจากผู้ผลิตให้มีมากพอขายแต่ไม่ได้ขายนั้น ถ้ามีสินค้ามากเกินไปขายไม่หมด ก็เสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา และเสียผลประโยชน์ที่จะได้จากการเอาเงินไปใช้หมุนเวียนทางอื่น
ข้อมูลที่สำคัญในการควบคุมวัสดุคงคลัง คือ แฟ้มข้อมูลหลัก ซึ่งอาจจะได้มาจากระบบจัดสั่งสินค้าหรือสร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อทำงานด้านวัสดุคงคลัง อย่างไรก็ตามแฟ้มข้อมูลหลักจะระบุความต้องการของสินค้าทุกชนิดในอดีตและการเคลื่อนไหวของสินค้าเหล่านั้นในปัจจุบัน
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านบัญชี
บัญชีที่ทำกันโดยทั่วไป ได้แก่ บัญชีเงินเดือน (payroll) การออกใบกำกับสินค้า (invoice) บัญชีลูกหนี้ (account receivable) การรับเงิน (cash receipts) บัญชีเจ้าหนี้ (account payable) การพิมพ์เช็คและหักบัญชี (check writing and reconciliation) เป็นต้น
การทำบัญชีเงินเดือนนั้น เดิมมักจะเป็นงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นงานแรกของธุรกิจต่าง ๆ เพราะจะได้ทดลองการใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่มีผลกระทบกระเทือนแต่อย่างใดกับลูกค้า เมื่อพนักงานคุ้นเคยและยอมรับการใช้คอมพิวเตอร์ จึงค่อยขยายงานไปด้านอื่น ๆ ขั้นตอนแรกของการทำบัญชีเงินเดือนก็คือ การจัดทำแฟ้มข้อมูลหลักว่ามีใครเป็นพนักงานบ้าง อยู่ที่ใด อัตราเงินเดือนเท่าใด หักภาษีและอื่น ๆ เท่าใด ต่อจากนั้นทุกงวดจะต้องแจ้งให้คอมพิวเตอร์ทราบว่ามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ เช่น ผู้ใดเข้าหรือออก ผู้ใดทำงานนอกเวลา และผู้ใดลาหยุดเกินกำหนดจนต้องหักเงินเดือนแล้วคอมพิวเตอร์ก็จะคำนวณเงินเดือนเงินหักต่าง ๆ แล้วพิมพ์รายการ พิมพ์เช็คและพิมพ์รายงานสรุปต่าง ๆ ได้
ในการค้าขายนั้น อาจถือได้ว่าใบกำกับสินค้าเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุด การใช้คอมพิวเตอร์ทำใบกำกับสินค้าช่วยให้การทำงานด้านนี้สะดวก ถูกต้องสิ้นเปลืองเวลาและพนักงานน้อยลง แฟ้มข้อมูลหลักที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการทำใบกำกับสินค้า ก็อาจนำไปใช้ในการวิเคราะห์ลูกค้า วิเคราะห์สินค้า วิเคราะห์การขาย และวิเคราะห์ตลาดต่อไป การวิเคราะห์ต่างๆ ดังกล่าวมีประโยชน์มาก แต่ถ้าไม่มีแฟ้มข้อมูลหลักอยู่ก่อนแล้ว ก็มักไม่มีใครทำการวิเคราะห์เรื่องเหล่านั้น เพราะจะต้องใช้พนักงานและเวลามากมาย
การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการเงินและการธนาคาร
ในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานธนาคารนั้น แต่ละธนาคารอาจระบุวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป เช่น บางธนาคารนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนต่อธนาคารนั้น จากธนาคารโบราณมาเป็นธนาคารทันสมัย บางธนาคารนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อพยายามดำรงความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี บางธนาคารนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อให้สามารถขยายงานได้รวดเร็ว และควบคุมการบริหารงานให้รัดกุมขึ้น เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว อาจจะกล่าวได้ว่าสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แข่งขันกันนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อประโยชน์สำคัญ 3 ประการ คือ ประการที่หนึ่งเพื่อช่วยให้บริการลูกค้าประจำได้สะดวกรวดเร็ว ประการที่สอง เพื่อให้สามารถเสนอบริการใหม่ ๆ ในรูปแบบและเวลาที่ลูกค้าประจำต้องการ และให้ลูกค้าประจำสามารถเข้าใจได้โดยง่าย และประการที่สาม เพื่อช่วยให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์สองข้อแรกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป
งานสถาบันการเงินการธนาคารที่นำคอมพิวเตอร์มาช่วยนั้น นอกจากด้านการบัญชีและด้านการบริหาร ซึ่งอาจคล้ายคลึงกับการใช้คอมพิวเตอร์ในหน่วยงานอื่น ๆ แล้ว ก็มีงานโดยตรงของสถาบันการเงินและการธนาคาร เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการฝากถอน หรือพนักงานรับและจ่ายเงิน (teller) ใช้คอมพิวเตอร์ในการโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ การหักบัญชีอัตโนมัติ ด้านสินเชื่อ ด้านแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าวสารการธนาคารบริการฝากถอนเงินนอกเวลา และบริการอื่น ๆ
ส่วนการใช้คอมพิวเตอร์ในด้านอื่น ๆ ของธนาคารก็มีอีกหลายอย่าง เช่น บริการโอนเงิน ณ จุดขาย บริการ ธนาคารในบ้าน และบริการธนาคารทางโทรศัพท์ เป็นต้น
การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านเกษตรกรรม
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการเกษตรที่สำคัญที่สุด น่าจะเป็นการจัดทำระบบข้อมูลเพื่อการเกษตร ซึ่งอาจมีทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ สำหรับระดับนานาชาตินั้น อาจจะเริ่มด้วยสำมะโนเกษตรนานาชาติซึ่งสถาบันการเกษตรระหว่างประเทศ (International Institute of Agriculture) ได้เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2473 โดยมีประเทศต่าง ๆ ร่วมเก็บข้อมูลรวม 46 ประเทศ สำหรับการจัดทำสำมะโนเกษตรในประเทศไทยนั้น เดิมสำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำและใช้คอมพิวเตอร์ของสำนักงานช่วยในการประมวลผล แต่ต่อมาได้มีการพิจารณาที่จะแยกงานสำมะโนเกษตรออกมาต่างหากจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อาจจะจัดทำเอง
การใช้คอมพิวเตอร์ในธุรกิจสายการบิน mai
ธุรกิจสายการบินมีความจำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาใช้ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก เพื่อให้สามารถให้บริการได้รวดเร็ว ประการที่สอง เพื่อแข่งขันกับสายการบินอื่นๆ และประการที่สาม เพื่อรักษาความปลอดภัยในการบิน โดยช่วยให้สามารถตรวจสอบสภาพเครื่องบินและอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้องแน่นอนและสม่ำเสมอ
ธุรกิจที่มีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ อาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คือ ประเภทที่หนึ่ง ผู้โดยสาร ประเภทที่สอง สินค้าพัสดุภัณฑ์ และประเภทที่สาม บริการอื่น ๆ เช่น ครัวการบิน สินค้าปลอดภาษีและบริการรับส่งผู้โดยสารภาคพื้นดิน เป็นต้น
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการศึกษา
โดยหลักการแล้ว การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการศึกษาอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท คือ ใช้เป็นเครื่องมือในบริหารการศึกษา และใช้เป็นเครื่องมือในการสอน
การบริหารการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งทางด้านการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษาจำนวนมาก หรือมีวิชาจำนวนมากที่เปิดให้นักศึกษาเลือกเรียนตามความถนัดและความต้องการดังนั้นผู้บริหารการศึกษาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องทราบข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้ในการจัดเตรียมงบประมาณ จัดเตรียมห้องเรียนได้ตามความต้องการ จัดครูหรืออาจารย์ผู้สอนได้ตามความถนัดของผู้สอน และมีชั่วโมงการสอนพอเหมาะทุกคน รวมทั้งการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายในแต่ละสาขาวิชาเพื่อที่จะได้ทราบว่าในปีต่อ ๆ ไป ถ้าเราจะผลิตนักศึกษาเหล่านั้นจะต้องลงทุนอีกเท่าใด และถ้าเพิ่มจำนวนนักศึกษาขึ้นอีกจะมีผลทำให้ต้องเพิ่มบุคลากร อาคาร ห้องเรียน และงบประมาณเป็นเท่าใด นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาได้ว่า วิชาการประเภทใดบ้างที่นักศึกษาไม่ค่อยนิยมเรียนอาจจะต้องหาทางชี้แจงให้นักศึกษาเข้าใจ หรือพิจารณาปิดวิชาเหล่านั้น โดยทั่วไปแล้ว ในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ทางการบริหารการศึกษานั้น จะแบ่งข้อมูลออกเป็น ๕ ด้าน คือ ด้านนักศึกษา ด้านแผนการเรียน ด้านบุคลากร ด้านการเงิน และด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์
การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการสอนนี้ คอมพิวเตอร์อาจช่วยครูทำงานบางอย่างได้ดีกว่าครู แต่ก็มีงานหลายอย่างที่คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ ยังคงจำเป็นที่จะต้องให้ครูทำอยู่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่คอมพิวเตอร์ช่วยทำได้ดีกว่าครูนั้นเป็นงานจำเจ ซึ่งครูเองคงไม่ตื่นเต้นสนใจหรือต้องการที่จะทำอยู่ตลอดไปนักฉะนั้น คอมพิวเตอร์จะช่วยให้ครูใช้ความรู้ความสามารถพิเศษให้เป็นประโยชน์แก่ระบบการศึกษาได้มากขึ้น
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างยิ่งในด้านการแพทย์ เริ่มตั้งแต่การรักษาพยาบาลทั่วๆ ไป โรงพยาบาลบางแห่งใช้คอมพิวเตอร์ในการทำทะเบียนคนไข้ ในด้านการบริหารการแพทย์ อาจจะใช้คอมพิวเตอร์ในการวางแผนและควบคุมการปฏิบัติงานทั้งระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโรงพยาบาลในด้านการปฏิบัติงาน เครื่องมือการแพทย์ในปัจจุบันหลายอย่าง ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบสำหรับใช้ควบคุมการปฏิบัติงานของเครื่องเหล่านั้น เช่น เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และเครื่องปฏิบัติการทดลองต่าง ๆ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เป็นต้น แม้ในด้านการวินิจฉัยโรค ในต่างประเทศก็มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยบันทึกไว้ว่าอาการต่าง ๆ จะเกิดจากโรคอะไรได้บ้าง นอกจากนี้ในการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ ก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในหลายด้าน ตัวอย่างที่สำคัญตัวอย่างหนึ่งคือ ด้านการใช้หุ่นยนต์คอมพิวเตอร์แทนคนในการศึกษาอาการโรค และการตอบสนองวิธีการรักษา เช่น ในด้านโรคหัวใจแบบต่าง ๆ ถ้าสั่งว่าลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ก็แสดงอาการของการที่ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท และถ้าฉีดยาให้ก็แสดงอาการตอบสนองให้นักศึกษาได้ศึกษาผลการฉีดยา เป็นต้น
การใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน ปัจจุบันนี้จะพบว่าหนังสือพิมพ์บางฉบับในบ้านเราที่โฆษณาว่าพิมพ์โดยเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ ฉะนั้นเราจึงอาจจะเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่เวลาเช้ามืืด เมื่อแต่งตัว เสื้อผ้าที่ใช้ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์อีก เช่น ผู้ผลิตใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวางแผนควบคุมการผลิต และวิจัยตลาด เมื่อรับประทานอาหารเช้าอาหารที่รับประทานก็อาจจะเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ในทำนองเดียวกับเสื้อผ้า พอออกจากบ้านเดินทางไปทำงาน ก็มีการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยจัดระบบไฟจราจร ยิ่งกว่านั้นทางกระทรวงคมนาคมกำลังเตรียมใช้คอมพิวเตอร์จัดทำระบบข้อมูล เพื่อการคมนาคมทั่วประเทศไทย เมื่อถึงที่ทำงาน อาจจะมีเรื่องเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์หลายเรื่อง โทรพิมพ์ที่หลายสำนักงานสั่งมาติดตั้งก็ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ราคาเกือบล้านบาท ถ้าจะโทรศัพท์ทางไกลติดต่อต่างประเทศก็คงต้องผ่านคอมพิวเตอร์บ้างไม่มากก็น้อย บางประเทศโทรพิมพ์ทางไกลเป็นระบบอัตโนมัติจัดโดยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ถ้าจะจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ของบริษัทการบินก็อาจใช้คอมพิวเตอร์ช่วยโดยที่เราไม่ทราบ ส่วนผู้อยู่ทางบ้าน อาจจะได้รับใบเรียกเก็บเงินค่าประปา ไฟฟ้า หนังสือพิมพ์ที่จัดพิมพ์โดยคอมพิวเตอร์มากนัก แต่ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น มีตลาดที่ใช้คอมพิวเตอร์มากมายหลายแห่ง การไปต่อทะเบียนรถ ไปธนาคาร ก็อาจจะได้ใช้บริการเงินด่วนหรือบริการคอมพิวเตอร์อื่น ๆ อีก ฉะนั้นจึงอาจจะกล่าวได้ว่า ในสมัยนี้ไม่ว่าเราต้องการจะเกี่ยวข้องกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่ก็ตาม คอมพิวเตอร์ก็อาจจะมาเกี่ยวข้องกับเราโดยที่เราไม่ทราบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น